บทความชวนอ่าน แผ่นดินไหว: เหตุมงคลในอุดมคติ ฤๅลางร้ายของแผ่นดิน
1. แผ่นดินไหวกับโลกทัศน์ที่เปลี่ยนไป
การมองว่า “แผ่นดินไหว” เป็นลางดีหรือลางร้ายนั้น ขึ้นอยู่กับโลกทัศน์ที่แตกต่างกันของแต่ละกลุ่มสังคมวัฒนธรรมว่าจะเชื่อมโยงเหตุการณ์แผ่นดินไหวให้เข้ากับเรื่องดีหรือร้ายของตนเอง แต่จุดร่วมที่ตรงกันไม่ว่าเรื่องนั้นจะดีหรือร้ายก็คือ เหตุการณ์นั้น “ต้องเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง” ทั้งนี้เพราะปรากฏการณ์แผ่นดินไหว เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นปกติ และเมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ก็ย่อมสั่นสะเทือนพื้นแผ่นดินอันเป็นที่อยู่อาศัย อันเป็นสัญลักษณ์แห่ง “ความมั่นคงและสวัสดิภาพของมนุษย์” ดังนั้น ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวจึงปรากฏเป็นบทบันทึกอยู่ในงานวรรณกรรมของมนุษยชาติมาทุกยุคทุกสมัย และมีการสร้างคำอธิบายเกี่ยวกับบ่อเกิดของแผ่นดินไหวแตกต่างกันไปตามลัทธิความเชื่อทางศาสนา บทความนี้จึงขอยกตัวอย่างของทั้งสองแง่มุมเปรียบเทียบกัน แง่มุมหนึ่งมาจากคัมภีร์ “พระไตรปิฎก” ซึ่งเป็นตัวแทนของโลกทัศน์อินเดียโบราณ และอีกแง่มุมหนึ่งมาจากบันทึกประวัติศาสตร์ “พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ” ซึ่งเป็นตัวแทนของโลกทัศน์สังคมไทยสมัยอยุธยา เพื่อให้เป็นความรู้เกี่ยวกับมุมมองเรื่องแผ่นดินไหวในเอกสารโบราณ ทั้งในเชิงอุดมคติและในเชิงประวัติศาสตร์ หลังจากที่ประเทศไทยเกิดเหตุแผ่นดินไหวจำนวน 2 ครั้ง ขนาด 4.5 และ 1.61 ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566 โดยมีศูนย์กลางอยู่ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ทั้งในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ และกำแพงเพชร (กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว 2566ข-ค: ออนไลน์)
อ่านบทความฉบับเต็ม
ผู้เขียน
ดร.ตรงใจ หุตางกูร
นักวิจัยด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
สวัสดีฉันคือแชทบอทจาก
ธัชชา ฉันสามารถช่วยอะไรได้บ้าง?